วอล์คเกอร์เป็นตัวอย่างของการแสดงที่มีระเบียบวินัยของเมือง

กราฟฟิคแสดงให้เห็นว่าไคล์วอล์คเกอร์ทำ 95 ครั้งในเกมกับเรอัลที่เอทิฮัดสเตเดียมซึ่งเป็นผู้เล่นส่วนใหญ่

ในทีมใดทีมหนึ่ง แต่มีเพียงสามคนที่อยู่ในสามคนสุดท้ายของสนาม (l) วอล์คเกอร์ได้ครอบครองเมืองเก้าครั้งอีกครั้งในเกมสูงแสดงโดยสามเหลี่ยมสีเหลือง (r) เขายังทำสำเร็จหนึ่งครั้ง (สามเหลี่ยมสีเขียว), หนึ่งสกัดกั้น (สีน้ำเงิน), สองช่องว่าง (สีม่วง) และหนึ่งการต่อสู้ที่ไม่สำเร็จ (สีแดง)

ไคล์วอล์คเกอร์ทำ 95 ครั้งกับเรอัลที่เอทิฮัดสเตเดียมซึ่งเป็นผู้เล่นส่วนใหญ่ในทีมใดทีมหนึ่ง แต่มีเพียงสามคนเท่านั้นที่อยู่ในสามคนสุดท้ายของสนาม (l) วอล์คเกอร์ได้ครอบครองเมืองเก้าครั้งอีกครั้งในเกมสูงแสดงโดยสามเหลี่ยมสีเหลือง (r) เขายังทำสำเร็จหนึ่งครั้ง (สามเหลี่ยมสีเขียว), หนึ่งสกัดกั้น (สีน้ำเงิน), สองช่องว่าง (สีม่วง) และหนึ่งการต่อสู้ที่ไม่สำเร็จ (สีแดง) แนวรับของซิตี้ได้รับคำวิจารณ์มากมาย แต่ฉันคิดว่าทั้งทีมป้องกันเรอัลได้ดีมาก

Fernandinho และ Aymeric Laporte แทบจะไม่ได้เล่นด้วยกันที่ด้านหลังเมื่อเร็ว ๆ นี้ - นี่เป็นเพียงครั้งที่สองที่พวกเขาเป็นคู่หูเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - แต่โรดรีตกลงไปเพื่อช่วยพวกเขาเมื่อจำเป็นและเควินเดอบรอยน์และอิลเคย์กุนโดกันก็เช่นกัน javaprimitive.com ทำงานอย่างหนักเพื่อเติมเต็มช่องว่างต่างๆ ครั้งเดียวที่เรอัลตามหลังพวกเขาพวกเขาทำประตูได้และต้องใช้เวลาอย่างแท้จริงข้ามจาก Rodrygo และการจบเครื่องหมายการค้าจาก Karim Benzema เพื่อให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น มิฉะนั้น Real ถูก จำกัด ไว้ที่ภาพรวมและความพยายามจากระยะไกลเนื่องจากวิธีที่สมดุลและมีวินัยในเมือง

ไคล์วอล์คเกอร์เป็นตัวอย่างที่ดีในการเล่นแบ็คขวา ในเชิงป้องกันเขาพร้อมสำหรับความท้าทาย

ในการรับมือกับเอเด็นอาซาร์และเขาก็พร้อมสำหรับเขาเสมอ วอล์คเกอร์เห็นหนึ่ง - สองคนมาและพูดว่า ไปต่อเถอะเอาชนะฉันในการแข่งขัน และฮาซาร์ดก็ไม่อยากทำ เขากลับเข้ามาข้างในเพราะเขารู้ว่าเขาไม่ได้มีความสุขอะไรมากมายโดยปกติคุณคาดหวังว่าจะได้เห็นวอล์คเกอร์บินไปข้างหน้าเช่นกัน แต่เขาแทบจะไม่ได้เข้าสู่รอบที่สามในครั้งนี้เพราะงานของเขาคือการหยุดฮาซาร์ดและเขาไม่ต้องการเปิดประตูทิ้งไว้เพื่อตอบโต้การโจมตี

ดังนั้นซิตี้จึงทำมันได้อย่างถูกต้องที่ปลายทั้งสองด้านของสนามและเช่นเดียวกับองค์กรระดับสูงสิ่งที่ดีอีกอย่างสำหรับพวกเขาคือความสงบใช่สิ่งต่าง ๆ เริ่มตึงเครียดเล็กน้อยเมื่อ Real ตีเสมอในคืนนี้ แต่ไม่มีความรู้สึกว่าข้างบ้านกำลังตื่นตระหนกในครึ่งหลังพวกเขารู้สึกว่าควบคุมเสมอกันได้และพวกเขาน่าจะชนะได้ด้วยอัตรากำไรที่มากกว่ายังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมากมายหากพวกเขาจะไปให้ถึงที่สุดและคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก แต่นี่เป็นวิธีที่น่าประทับใจในการจองตำแหน่งในลิสบอน

Michael Brown กำลังพูดกับ Chris Bevan แห่ง BBC Sport สาเหตุส่วนหนึ่งที่เป๊ปเปลี่ยนผู้เล่นแดนหน้าของเขาในช่วงพักครึ่งคือเพื่อให้ซิตี้มีความกว้างมากขึ้นดังนั้นพระเยซูจึงเคลื่อนตัวจากศูนย์กลาง, โฟเดนถูกผลักออกไปทางขวาและสเตอร์ลิงก็ไปทางซ้าย ในตอนนั้นซิตี้กำลังปฏิบัติการด้วยการโจมตีสามคนแบบดั้งเดิมมากขึ้นเมื่อพวกเขามีบอล แต่พวกเขาไม่ปล่อยให้จังหวะลดลงเมื่อพวกเขาไม่อยู่ในการครอบครอง

นั่นเป็นไปได้เพราะ Foden ที่ให้มาก ๆ ถูกแทนที่ด้วยผู้เล่นที่ทำงานหนักมากใน Bernardo Silva

บางคนตั้งคำถามว่าทำไม Foden ถึงถูกถอดออกเมื่อเขาเล่นได้ดีมาก แต่เมื่อเขาถูกเปลี่ยนตัวออกหลังจากผ่านไป 67 นาทีทีมที่เหลือของ City ก็ครอบคลุมค่าเฉลี่ยมากกว่า 7 กม. Foden ทำระยะทางกว่า 9 กม. ในเวลาเดียวกันตั้งแต่เริ่มต้นเขาอยู่ทุกหนทุกแห่งสร้างความกดดันให้กับการป้องกันตัวจริง 

สเตอร์ลิงส่องสว่างเป็นตัวสำรอง

Isco นำหน้าเรอัลมาดริด อิสโกนำเรอัลมาดริดไปข้างหน้าในนาทีที่ 60 แต่เรอัลจัดการยิงเข้าเป้าเพียงสามนัดตลอดทั้งเกมและรวมเก้าครั้ง เมืองมีทั้งหมดแปดและ 16 เรอัลเริ่มต้นด้วยการเห็นบอลจำนวนมาก - มากถึง 70% ในช่วงสองสามนาทีแรก - แต่ซิตี้ดูเหมือนว่าพวกเขาอยู่ในสภาพดีและ จำกัด โอกาสได้ค่อนข้างดี การจ่ายบอลแบบหลวม ๆ สองครั้งทำให้ซิตี้มีปัญหาเล็กน้อยในช่วงต้น แต่เมื่อเรอัลนำบอลไปข้างหน้าและสร้างการโจมตีฝ่ายของกวาร์ดิโอล่าดูสบายมาก

ซิตี้เริ่มคุมเกมได้อย่างแท้จริงเมื่อพวกเขาล้มหลังในช่วงชั่วโมงและอีกครั้งที่พวกเขานำความหายนะมาสู่ตัวเองเพราะโรดรีเป็นคนปล่อยให้เรอัลเข้ามาเมื่อเขาส่งบอลไปในพื้นที่สำคัญ หลังจากเป็นผู้นำในตอนแรกเรอัลทำได้ดีมากในการหยุดโมเมนตัมการสร้างเมือง - แต่ทั้งหมดนั้นเปลี่ยนไปเมื่อสเตอร์ลิงเข้ามาแทนที่เบอร์นาร์โดหลังจาก 73 นาทีDaniel Carvajal ทำฟาวล์ Raheem Sterling เพื่อให้ได้จุดโทษ

Daniel Carvajal ทำฟาวล์ให้ Raheem Sterling เสียจุดโทษในนาทีที่ 82 สเตอร์ลิงกลัวกองหลังเพราะพวกเขาไม่ชอบใครสักคนที่มีฝีเท้าวิ่งเข้ามาหาพวกเขาทั้งในและนอกบอลและเขาก็ทำทั้งสองอย่างกับเรอัลเพื่อทำลายล้าง ประตูแรกของซิตี้เกิดขึ้นในนาทีที่ 78 หลังจากที่เขาวิ่งหนีบอลไปทางซ้ายและเว้นช่องว่างให้เดบรอยน์อัดบอลที่ยอดเยี่ยมให้พระเยซูซึ่งย้ายเข้าไปเล่นเป็นศูนย์หน้าเพื่อโหม่ง บ้าน.

ตอนนี้เกมได้เปิดขึ้นแล้วและฉันก็พูดกับ BBC Radio 5 แบบสดๆว่ามันเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสเตอร์ลิงที่จะได้พบกับใครบางคนในพื้นที่กว้างและผลักเขากลับเข้าไปในกล่อง นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น Dani Carvajal มีประสบการณ์มากพอที่จะรู้ดีกว่าการลงสนาม แต่เขาก็ไปเพื่อรับมือในเวลาที่ควรจะวิ่งไปพร้อมกับเขา

สเตอร์ลิงเร็วมากจนคาร์วาฆัลทำผิดพลาดและทิ้งขาไว้และลงเขาไป

เดอบรอยน์ยุติความเจ็บปวดจากจุดโทษของเมืองเควินเดอบรอยน์ทำให้แมนเชสเตอร์ซิตี้นำหน้า 2-1 จากจุดโทษDe Bruyne เปลี่ยนจุดโทษของ City เขายิงประตูและช่วยมาดริดได้เป็นครั้งแรกที่เขาทำได้ทั้งในเกมแชมเปียนส์ลีก เมื่อเร็ว ๆ นี้การได้รับการลงโทษทำให้เกิดปัญหากับซิตี้ พวกเขาพลาดสี่นัดสุดท้ายจากจุดดังกล่าว - รวมถึงเลสเตอร์ในวันเสาร์ - และห้าในแปดในฤดูกาลนี้

นอกเหนือจากผู้บรรยายสด 5 คนอย่างจอห์นเมอร์เรย์ฉันได้วิเคราะห์พวกเขาทั้งหมดก่อนเกมและดูว่าใครจะเป็นคนต่อไปด้วย ปรากฎว่า De Bruyne ไม่ได้ลงสนามให้กับ City ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2016 แต่เห็นได้ชัดว่าเขาได้ตกลงล่วงหน้าแล้วว่าถึงตาที่เขาจะต้องไป ฉันคิดว่าเขาเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องและถ้าเขาพลาดอย่างใดอย่างหนึ่งในอนาคตฉันไม่คิดว่าเขาควรจะเลิกคบ

เขาทำได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาและในระดับที่เขาอยู่ในตอนนี้ฉันคิดว่าเขาทำได้เพียงแค่แตะคางและคิดว่า 'ฉันเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกดูสิ มีอะไรให้ฉันอีกบ้าง '.มันเป็นจังหวะที่ดีสำหรับเขาเช่นกันเพราะเขาสร้างอีควอไลเซอร์เพียงไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ดังนั้นเมื่อซิตี้ได้จุดโทษเขาอาจจะคิดว่า 'นี่มันสมบูรณ์แบบแล้วให้ฉันรับมันไป'

วิธีที่ซิตี้มองเห็นชัยชนะของพวกเขาก็น่าประทับใจเช่นกันสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นล้วน แต่เป็นเรื่องของความพยายามและสมาธิของพวกเขาและผู้เล่นของพวกเขาก็ใส่ทุกอย่างที่มีลงไป ผู้เล่นของแมนฯ ซิตี้ทักทายแฟน ๆ ด้วยเสียงนกหวีดสุดท้ายที่มาดริด ในการเป่านกหวีดครั้งสุดท้ายฉันกำลังเฝ้าดูม้านั่งทั้งเมืองฉลองกับกวาร์ดิโอล่าเพราะพวกเขารู้ว่าเกมนี้เป็นเกมที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเขา พวกเขาสมควรได้รับผลการแข่งขันอย่างเต็มที่แม้ว่ามันจะเป็นความผิดพลาดที่คิดว่าการเสมอครั้งนี้จะชนะ